โปรแกรมเลเซอร์รักษาฝ้า ให้ฝ้าจางลง ผิวดูกระจ่างสดใสขึ้น
เลเซอร์ดึงเม็ดสี-รักษาฝ้า

เลเซอร์รักษาฝ้า ปรับพลังงานให้เหมาะกับผิว ฝ้าจางลง ผิวใสขึ้น

ฝ้า เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเม็ดสีใต้ผิวหนัง และหนึ่งในแนวทางการดูแลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ เลเซอร์รักษาฝ้า แต่การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาฝ้า ไม่ได้มีรูปแบบเดียวกันทุกคน เพราะ “ฝ้าแต่ละประเภท” และ “สภาพผิวของแต่ละคน” มีความแตกต่างกัน การตั้งค่าพลังงานเลเซอร์และโปรแกรมเลเซอร์ฝ้าที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละคนจึงมีความสำคัญมาก

เลเซอร์รักษาฝ้าทำงานอย่างไร?

เลเซอร์จะปล่อยพลังงานในระดับที่สามารถส่งผ่านเข้าไปยังใต้ชั้นผิว โดยที่เลเซอร์มีหลากหลายจุดประสงค์ที่จะเข้าไปเพื่อไปโฟกัสให้เกิดกระบวนการบางอย่าง โดยขั้นอยู่กับการเลือกตัวเลเซอร์ การตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ของแพทย์ผู้รักษา โดยหลักๆ ของเลเซอร์ฝ้านั้นสามารถช่วย

  • ลดเม็ดสีที่ทำให้เกิดฝ้า
  • กระตุ้นผิวให้แข็งแรงขึ้น
  • ลดเส้นเลือดฝอย
  • ลดการอักเสบของผิว

ทำไมต้องปรับพลังงานเลเซอร์ตามสภาพผิวแต่ละคน?

  • ผิวแต่ละคน ตอบสนองต่อพลังงานไม่เท่ากัน
  • ฝ้ามีทั้งฝ้าตื้น ฝ้าลึก ฝ้าผสม ฝ้าเส้นเลือด
  • หากใช้พลังงานมากเกินไป อาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองหรือทำให้ผิวบางได้
  • หากใช้พลังงานน้อยเกินไป อาจไม่เกิดผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง

การตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสม จะช่วยให้การรักษาฝ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับผิว และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ

  • ประเมินผิว และประเภทฝ้าอย่างละเอียด ด้วยโปรแกรม กล้อง 3D QuantifiCare 
  • ปรับพลังงานและประเภทเลเซอร์ให้เหมาะกับโทนสีผิวและชนิดของฝ้า
  • โปรแกรมเลเซอร์ฝ้า ที่ไม่ใช่การลอกผิว หรือการทำให้ผิวบางลง
  • แพทย์ดูแลทุกขั้นตอน พร้อมติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด

บทความนี้ เราจะยกตัวอย่างของ เลเซอร์ลดเม็ดสี สำหรับการรักษาฝ้า ที่มีความเฉพาะเจาะจงกับเม็ดสีฝ้า ทำให้เม็ดสีฝ้าแตกออก จากนั้นตัวเม็ดเลือดขาวจะมาเก็บกินตามกลไกของร่างกาย ฝ้าค่อยๆ จางลง สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น โดยลดโอกาสที่ผิวด้านบนจะบางลง

เลเซอร์ทำให้เม็ดสีแตกออก และมีตัวเม็ดเลือดขาวมาเก็บกิน

รักษาฝ้า-ด้วยเลเซอร์ลดเม็ดสี

ข้อความในรูปภาพ เลเซอร์ลดเม็ดสีฝ้า มีหลายชนิด “การตั้งค่าพลังงานของแพทย์ เป็นสิ่งสำคัญ”

เลเซอร์ลดเม็ดสีมีหลายชนิด การเลือกใช้จึงควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับลักษณะของฝ้าและสภาพผิวของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญ คือ การตั้งค่าพลังงานให้เลเซอร์ทำงานในระดับที่สามารถส่งผ่านพลังงานไปยังเม็ดสีได้อย่างเหมาะสม โดยลดโอกาสที่ผิวจะเกิดการระคายเคือง

เลเซอร์รักษาฝ้า
รักษาฝ้า-ด้วยเลเซอร์ลดเม็ดสี

ข้อความในรูปภาพ การปรับค่าพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะสมกับชนิดของฝ้าและระดับความลึกของผิว เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญในการดูแลฝ้า

เม็ดสีเมลานินใต้ผิว เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า ซึ่งชนิดของฝ้า คือ ฝ้าตื้น, ฝ้าลึก, ฝ้าผสม ฝ้าเส้นเลือด นั้น จะขึ้นอยู่กับว่าเม็ดสีอยู่ที่ชั้นผิวชั้นใด การปรับตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ฝ้าให้เหมาะกับเม็ดสีที่อยู่แต่ละชั้นผิว เป็นสิ่งที่แพทย์ควรคำนึง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์ฝ้า

Q: เลเซอร์รักษากระฝ้าใช้ได้กับทุกคนไหม?
A: การรักษาฝ้า ด้วยเลเซอร์นั้น แพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้ประเมินผิวก่อนทุกครั้ง โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิว ประเภทฝ้า และประวัติการดูแลผิวมาก่อน

Q: ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A: สามารถเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังทำในประมาณ 3-5 ครั้ง **ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล**

Q: หลังทำเลเซอร์แล้วผิวบางไหม?
A: การดูแลฝ้าด้วยเลเซอร์ หากใช้พลังงานที่เหมาะสมกับประเภทฝ้า กับระดับความเข้มที่เม็ดสีฝ้าฝังตัวอยู่ ร่วมกับการดูแลผิวหลังทำที่ถูกวิธี ผิวจึงแข็งแรง ไม่ไวต่อแสงแดด

สรุป

เลเซอร์ดูแลฝ้า ที่สามารถรักษาฝ้าให้จางลงได้ โดยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงต่อผิวนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจผิว เข้าใจประเภทฝ้า เข้าใจความลึกที่เม็ดสีฝังอยู่ ไม่ใช่แค่เพียงยิงพลังงานเลเซอร์อย่างเดียว แต่แพทย์ผู้รักษา ควรมีความรู้ ความเข้าใจในการปรับตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีต่อการรักษาฝ้า “ลักษณะผิวและฝ้าของแต่ละคน ไม่ใช่แนวทางการรักษาแบบเดียวกันที่จะใช้ได้กับทุกคน” การเลือกแพทย์และคลินิกรักษาฝ้า จึงเป็นเรื่องที่คนเป็นฝ้าควรหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจรักษา

icon email