รู้ทัน 5 สาเหตุ พฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้า รู้ไว้เพื่อป้องกัน
สาเหตุของฝ้า

สาเหตุของฝ้า ที่หลายคนมองข้าม
พร้อมคำแนะนำป้องกันฝ้าก่อนที่ผิวจะเสียหาย

    หลายคนอาจโฟกัสที่วิธีรักษาฝ้า แต่จริง ๆ แล้ว การเข้าใจ สาเหตุของฝ้า ตั้งแต่ต้นคือกุญแจสำคัญในการดูแลผิวให้ปลอดภัยในระยะยาว เพราะพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน—แม้ดูเหมือนไม่อันตราย—อาจกระตุ้นให้ฝ้าก่อตัวโดยไม่รู้ตัว การรู้ทันสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการ ป้องกันฝ้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

5 สาเหตุของฝ้า รู้ทันไว้เพื่อ ป้องกันฝ้า อย่างเข้าใจผิวตัวเอง

ฝ้ามาแน่ ถ้ายังทำสิ่งนี้ เผยพฤติกรรม ที่ทำแล้วหน้าพัง เสี่ยงฝ้ามาเยือนผิวคุณ “ทำไมหน้าถึงเป็นฝ้า?” เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะเมื่อดูแลผิวก็แล้ว ใช้ครีมก็แล้ว แต่ฝ้าก็ยังอยู่ หรือฝ้ากลับมาเข้มขึ้นกว่าเดิม เพราะความจริงแล้วฝ้าอาจเกิดจาก “พฤติกรรมบางอย่าง” ที่เราเผลอทำโดยไม่รู้ตัว ซึ่งไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีใต้ผิว และทำให้เกิดรอยคล้ำหรือฝ้าบริเวณใบหน้า เป็นสาเหตุของฝ้า แล้วคุณจะมีวิธีการป้องกันฝ้า ด้วยตัวเองอย่างไร บทความนี้จะมาแนะนำให้กับคุณ

สาเหตุของฝ้า ไม่ทาครีมกันแดด

1. ไม่ทาครีมกันแดด หรือทากันแดดไม่เพียงพอ

แสงแดดเป็นหนึ่ง ในปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเกิดฝ้า เพราะในแสงแดดมีรังสี UVA ที่ไปกระตุ้นสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวได้ หากละเลยการทาครีมกันแดด หรือใช้ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ผิวจะยิ่งถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำตามมาได้ง่าย

แนะนำ : ทาครีมกันแดดทุกเช้าเป็นประจำทุกวัน แม้อยู่ในที่ร่ม เพราะรังสี UV และแสง Visible Light  จากหน้าจอโทรศัพท์ แสงจอคอม หรือแม้กระทั่งแสงไฟ ก็มีผลทำให้ฝ้าเข้มขึ้น หน้าหมองคล้ำขึ้น และเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไปจึงเป็นสิ่งจำเป็น ควรทาในปริมาณ 1 ข้อนิ้วก้อย จำนวน 2 ครั้ง ห่างกัน 20 นาที ก่อนออกจากบ้าน และทาซ้ำทุก 4-6 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดด

สาเหตุของฝ้า การใช้ครีมที่ทำให้หน้าใสไวเกินไป

2. การใช้ครีมที่ทำให้หน้าใสไวเกินไป

ครีมบางชนิดที่บอกกล่าวถึงคุณสมบัติที่ทำให้  “หน้าใสขึ้นอย่างเร็ว” ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวบางลง เช่น สารสเตียรอยด์ หรือปรอท ทำให้ผิวใสขึ้นเร็วแต่ส่งผลเสียหลายอย่างไว้กับผิว นำไปสู่ฝ้าที่เกิดจากเครื่องสำอางได้ เช่น

  • ผิวบางและไวต่อแสงแดด ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองง่าย แสบแดง และเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า จุดด่างดำ หรือผิวไหม้แดดมากขึ้น
  • เกิดการอุดตันรูขุมขนและสิว เนื่องจากครีมบางชนิดมีเนื้อหนักหรือสารที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน ทำให้เกิดสิวและผื่นแพ้ตามมา
  • ผลข้างเคียงระยะยาว เช่น การสะสมสารพิษในร่างกาย สารบางชนิดในครีมฟอกขาว เช่น ออกซีเบนโซน ออคโตไคลีน หรือโฮโมซาเลต อาจซึมเข้าสู่ร่างกายและสะสมจนก่อให้เกิดผลเสียต่อฮอร์โมนและระบบต่อมไร้ท่อ
  • ผิวเสื่อมสภาพและแก่ก่อนวัย การใช้สารเคมีรุนแรงทำลายเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแห้ง ลอก และเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น

คำแนะนำ : เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และอ่านฉลากดูส่วนผสมของครีมที่ใช้ ให้หลีกเลี่ยงสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น พาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ สารปรอท และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวคุณเอง

สาเหตุของฝ้า ขัดผิวหน้าบ่อย

3. ขัดผิวหน้าบ่อย การทำทรีทเมนต์ที่แรงเกินไปกับผิว

การขัดผิวหน้าบ่อยหรือขัดแรงเกินไป แม้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและทำให้ผิวดูสดใสในระยะสั้น แต่กลับส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวอย่างมาก ดังนี้

  • ผิวระคายเคืองและอักเสบ การขัดผิวแรงหรือบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง แดง แสบ คัน หรือเกิดผื่นได้ง่าย ผิวบางคนอาจเกิดสิวอักเสบหรือผื่นแพ้ตามมา
  • ผิวบางลงและไวต่อแสงแดด เมื่อขัดผิวแรงหรือบ่อย ชั้นปกป้องผิวตามธรรมชาติจะถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวบางลง ขาดความชุ่มชื้น และไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงมีโอกาสเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำง่ายกว่าเดิม
  • ผิวแห้งกร้านและขาดน้ำ การขัดผิวมากไปทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดอาการแห้ง ลอกเป็นขุย หรือรู้สึกตึงผิว ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำและแก่ก่อนวัย
  • กระตุ้นการอักเสบและปัญหาผิวเรื้อรัง ผิวที่ถูกขัดแรงหรือบ่อยจะเกิดการอักเสบเรื้อรัง เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดรอยดำหรือฝ้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากมีสิวหรือผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว
  • ทำให้ฝ้าและปัญหาผิวรุนแรงขึ้น ผิวที่บางและไวต่อแสงจะกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นและกระจายตัวมากขึ้นในระยะยาว เพราะผิวสูญเสียความสามารถในการปกป้องตัวเองจากรังสี UV

คำแนะนำ: ควรขัดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ไม่ควรขัดบ่อยเกิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงหรือใช้เม็ดสครับขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีปัญหาสิว ควรให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเอง และอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดหลังการขัดผิว

สาเหตุของฝ้า ทานยาคุมกำเนิด

4. ทานยาคุมกำเนิด หรือการฉีดยาคุมกำเนิด

ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวทำงานมากขึ้น ทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น โดยฝ้าฮอร์โมนนี้มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 

คำแนะนำ : สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวระหว่างใช้ยา หากจำเป็นต้องใช้ยาคุม ควรปรึกษาแพทย์ผู้ให้การรักษาอย่างเหมาะสม 

สาเหตุของฝ้า ความเครียดที่สะสม

5. ความเครียดที่สะสม หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ความเครียดเรื้อรังกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล สามารถส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เซลล์เม็ดสีเมลาโนไซท์ทำงานผิดปกติ และทำให้ฝ้าเกิดหรือเข้มขึ้น

คำแนะนำ : พยายามหาวิธีผ่อนคลายร่างกาย เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อช่วยลดระดับความเครียด เมื่ออารมณ์ดี ผิวพรรณจึงดูเปล่งปลั่งสดใสขึ้นได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ “พฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้า”

A: มีโอกาสที่ผิวจะเสี่ยงเป็นฝ้ามาก เพราะรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดสามารถกระตุ้นให้เม็ดสีใต้ผิวทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้าหรือทำให้ฝ้าเดิมเข้มขึ้นได้

A: ควรระวังผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวใสไวผิดปกติ เพราะอาจมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวบาง และไวต่อแสง ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดฝ้าได้ง่าย

A: หากขัดผิวแรงหรือบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวระคายเคือง และไวต่อแสง ส่งผลให้ฝ้าเกิดง่ายขึ้นได้ ควรเลือกวิธีดูแลผิวที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว

สรุปสาเหตุของฝ้า การป้องกันฝ้า

   การป้องกันฝ้า คุณสามารถเริ่มที่การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันได้ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุฝ้า สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดฝ้าในระยะยาว ไม่ใช่แค่การใช้ครีม หรือการทำเลเซอร์เท่านั้น แต่การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากภายในและภายนอกก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ

บทสรุป

    การเลือกหมอดูแลฝ้า ไม่ใช่แค่เรื่องของชื่อเสียง แต่ควรมองที่การวิเคราะห์สภาพผิวอย่างเหมาะสม การให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และแนวทางการดูแลที่ปรับตามลักษณะผิวของแต่ละบุคคล หากมีการใช้เลเซอร์ร่วมกับการดูแลอย่างต่อเนื่องภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ผลลัพธ์ที่ได้อาจช่วยให้รอยฝ้าค่อยๆ ดูจางลงในแบบที่เหมาะกับแต่ละคน

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • .

 

175544693 2943867955894293 3780368712251955024 n

1. ทาครีมกันแดดน้อย หรือไม่ทาครีมกันแดดเลย

แสงแดด เป็นตัวการร้ายๆ ที่ทำให้ผิวเกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ เพราะในแสงแดดมี รังสี UVA
และยูวีนี้มีความยาวคลื่นมากถึง 95% ของรังสีที่มากระทบกับผิวเรา ซึ่งถ้าผิวเราไม่มีการทาครีมกันแดดที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันผิวจากแสงแดดแล้วล่ะก็ ผิวก็จะได้รับรังสีนี้แบบเต็มๆ ทำให้ไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน (เม็ดสีดำ) ใต้ผิวหนังให้เยอะขึ้น ผิวหน้าจึงดำคล้ำ และเป็นฝ้าหนาๆ เต็มไปหมด

175506397 2943867969227625 5958832535955371574 n

2. ใช้ครีมหน้าขาวใส เห็นผลไว

การใช้เครื่องสำอาง ที่มีสารเคมีอันตรายปนเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นสารสเตียรอยด์ สารกันบูดหรือสารปรอท ตะกั่ว ที่ใช้แล้วจะเห็นว่า “หน้าขาวใสอมชมพู” แบบรวดเร็วในช่วงแรกๆ แต่พอใช้ไปได้สักพัก (ผิวหน้าจะเกิดผื่นแดง เกิดการอักเสบของผิว) สุดท้ายจะเห็นมีฝ้าขึ้นมา และมีเส้นเลือดฝอยขึ้นที่ผิวหน้า จนทำให้หน้าบาง แดงง่าย และไวต่อแสงแดด

174190627 2943868019227620 9097356159224391659 n

3. ขัดลอก ถู ผิวหน้าบ่อยๆ

เพราะการขัดถู หรือสครับผิวหน้า เป็นการรบกวนผิวหากขัดผิวแบบรุนแรงจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบบอบบางและเกิดการระคายเคืองง่าย จึงกลายเป็นผิวอ่อนแอ ไวต่อแสงแดด ให้เราลองนึกถึงบริเวณที่ผิวเราได้รับการเสียดสีอยู่บ่อยๆ เช่น ตรงหน้าท้องที่รัดเข็มขัด หรือรักแร้ที่เกิดการเสียดสีเวลาเราแกว่งแขน ยังเกิดเป็นรอยและมีสีผิวที่คล้ำกว่าปกติได้เลย ดังนั้นผิวหน้าที่บอบบางจะเหลืออะไร หากเราขัดถูแรงๆ

173147603 2943868009227621 8244855189006965578 n

4. ทานยาคุม

ฮอร์โมนภายในที่เกิดจาก การทานยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุม การฝังยาคุม หรือการทานยาที่มีผลกระตุ้นฝ้า ควรหลีกเลี่ยงการทานหรือถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ ควรแนะนำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรงจะดีที่สุด

175711820 2943868035894285 3411373897879658045 n

5. ความเครียดสะสมมาก

เพราะความเครียดส่งผลต่อผิวเราโดยตรง จะไปกระตุ้นให้เม็ดสีทำงานมากขึ้น ดังคำกล่าวที่เราเคยได้ยินว่า “หน้าดำคล้ำเครียด” แม้ความเครียด รักษาให้หายไม่ได้ แต่เราสามารทำให้มันไม่เกิดได้ ทั้งนี้ก็อยู่ที่ตัวของเราเอง พยายามปล่อยวางและให้คิดอยู่เสมอว่า หากเราเครียดเมื่อไหร่ “ฝ้า” จะกลับมาหาได้นะคะ ลองหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียดทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ออกไปเที่ยวพักผ่อน ออกกำลังกายอย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน จะช่วยปรับอารมณ์และลดระดับความเครียดลงได้ค่ะ

รู้เท่าทันสาเหตุการเกิดฝ้า ป้องกันไว้ง่ายกว่ารักษา

https://www.youtube.com/watch?v=B3TD8yeMqPY

📌 รีวิวผลการรักษาฝ้าได้ที่
คลินิกรักษาฝ้า.com

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
Line ID : @bslclinic มี @ ข้างหน้าด้วยนะคะ
Line : https://line.me/ti/p/@bslclinic
Inbox : https://m.me/bslclinic
📱099-343-8666

icon email