ทำงานกลางแดดจนหน้าเป็นฝ้า รักษายังไงไม่ให้กลับมาเข้มขึ้นอีก!!

ทำงานกลางแดดจนเป็นฝ้า รักษาแบบไหนไม่ให้กลับมาเข้มขึ้น

ผิวหมองคล้ำ-หน้าเป็นฝ้าแดด

“ทำงานกลางแดดจนหน้าเป็นฝ้า รักษาแบบไหนไม่ให้กลับมาเข้มขึ้น”

     ปัญหาฝ้า กับคนที่ทำงานกลางแดดจัดๆ มักมาเป็นของคู่กัน เพราะแสงแดดมี UVA, UVB ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง จึงกระตุ้นให้เม็ดสีดำ ผิวจึงเข้มขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้หน้าเป็นฝ้าที่พบบ่อยในคนไทย วิธีการหลีกเลี่ยงก็มีทั้งการทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 PA+++ ขึ้นไปเพื่อปกป้องผิวเราจากแสงตัวร้ายที่ทำให้เกิดฝ้า แต่หากเป็นฝ้าแล้วการรักษาจะทำได้ยาก หากหาครีมรักษาฝ้ามาใช้เองก็เสี่ยงต่อการเจอสารอันตรายปะปนในเนื้อครีม อย่างเช่น สารปรอท สารสเตียรอยด์ ในช่วงแรกจะทำให้ผิวขาวขึ้นจริงแต่หากใช้ไปสักระยะอาจทำให้ผิวบางลง และยิ่งทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาฝ้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะตอบโจทย์ปัญหาได้อย่างตรงจุด และฝ้าไม่กลับมาเข้มขึ้นตรงบริเวณที่ทำในระยะยาว

รักษาฝ้าผิดวิธี ฝ้ายิ่งเข้มขึ้น

คนไข้รักษาฝ้า-คุณกิมชุ้น-หน้าเป็นฝ้า-ด้านซ้าย
คนไข้รักษาฝ้า-คุณกิมชุ้น-หน้าเป็นฝ้า-ด้านขวา

     สวัสดีค่ะ ดิฉันกิมชุ้น มีปัญหาฝ้าบริเวณใบหน้าเพราะเกิดจากการทำงานกลางแสงแดดทุกวัน ตอนแรกก็เป็นไม่เยอะจึงหาครีมรักษาฝ้าตามท้องตลาดมาใช้ ทาไปทามาฝ้าก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่ว่าเป็นฝ้าเยอะจนรับใบหน้าของตัวเองไม่ได้เลย กังวลใจมาก ไม่มีความมั่นใจเลย เวลาจะออกไปไหนต้องหาแมสก์กับหมวกมาใส่ แต่มันก็ใส่ไม่ได้ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกไม่อยากสู้หน้าใคร ไม่อยากสบตาใครเลยค่ะ แต่ก่อนก็ใช้วิธีการแต่งหน้าหนาๆ ช่วยปกปิดทุกวันจนท้อ เลยตัดสินใจว่าเราต้องรักษาฝ้าอย่างจริงจังสักที จึงหาข้อมูลใน Google ว่า “คลินิกที่ดีที่สุดในการักษาฝ้า” และเห็นบีเอสแอลคลินิกจึงเข้าไปดูรายละเอียด มีรีวิวจากคนไข้จริงๆ ที่เข้ามารักษาและได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะคนนั้นเป็นฝ้าเยอะแบบเราเลยค่ะ เขายังจางลงได้เยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเรามารักษาก็ต้องดีขึ้นแน่ๆ พอได้เห็นรีวิวนั้นก็ไม่ดูคลินิกอื่นแล้ว ตัดสินใจมารักษาที่บีเอสแอลคลินิกทันที เพราะรีวิวผลการรักษาคือสิ่งที่จูงใจ และมีความน่าเชื่อถือค่ะ

รักษาหน้าเป็นฝ้าอย่างไร ไม่ให้กลับมาเข้มขึ้น

     หลังจากเข้ามาปรึกษาปัญหาฝ้าที่บีเอสแอลคลินิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำวิธีการรักษาที่ชัดเจน ว่าปัญหาฝ้าแบบเราต้องทำอะไรบ้าง และฝ้าจะจางลงได้ประมาณไหน ซึ่งในความเป็นจริง “ฝ้าไม่สามารถหายขาดได้ แต่สามารถทำให้จางลงได้” โดยคุณหมอก็ได้บอกตั้งแต่ตอนแรก รู้สึกโอเคที่ได้ยินแบบนี้เพราะไม่ได้เป็นการหลอกให้ความหวังว่าฝ้าจะหายไปจากผิวหน้าเลย ได้ความจริงใจไปเต็มๆ และบวกกับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์การรักษายิ่งทำให้มั่นใจว่าต้องรักษาฝ้าที่นี่ (บีเอสแอลคลินิก)

คนไข้รักษาหน้าเป็นฝ้า-คุณกิมชุ้น-ทำความสะอาดใบหน้า

     ตอนที่ทำความสะอาดผิวหน้าผู้ช่วยแพทย์มือเบามากค่ะ และใส่ใจจริงๆ มีการสอบถามเลยว่าสามารถเช็ดทำความสะอาดตรงบริเวณคิ้วหรือปากได้หรือไม่ ก็เข้าใจแหละคะว่าคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า ถ้าหายไปจากใบหน้าผู้หญิงแบบเราๆ ก็คงขาดความมั่นใจ ส่วนตัวแล้วขอเหลือคิ้วกับริมฝีปากไว้ค่ะ เผื่อออกคลินิกไปก็ยังสวยได้อยู่ รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทางคลินิกเลือกใช้อ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย ไม่มีอาการ แสบ คัน ผื่นแดง หลังทำเลย

คนไข้รักษา-หน้าเป็นฝ้า-คุณกิมชุ้น-เลเซอร์ลดเม็ดสี-รักษาฝ้า

     ต่อมาแพทย์อธิบายว่าการใช้เลเซอร์ลดเม็ดสี ในการรักษาฝ้า ตัวเลเซอร์จะไปทำงานที่เม็ดสีดำที่เข้มกว่าปกติโดยเฉพาะ และร่างกายจะค่อยๆ กำจัดออกให้หายไปตามธรรมชาติ ตอนทำรู้สึกอุ่นๆ ที่ผิวหน้าเล็กน้อย แต่ทางผู้ช่วยแพทย์มีการเป่าลมเย็นที่ช่วยให้เรารู้สึกสบายมากขึ้น หลังทำไปรู้สึกว่าฝ้าจะค่อยๆจางลง และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังการรักษาไปแล้วประมาณ 3 ครั้ง ผิวไม่เกิดอาการไหม้ และหลังจากกลับไปเจอแสงแดดจากการทำงานก็สังเกตว่าฝ้าที่ทำเลเซอร์ไปไม่ได้กลับมาเข้มขึ้นอีก

คนไข้รักษาฝ้า-คุณกิมชุ้น-เลเซอร์ดึงเม็ดสี-รักษาฝ้า

     และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะใช้เลเซอร์ดึงเม็ดสีออกเพื่อให้เลเซอร์ไปดึงเม็ดสีที่เข้มกว่าปกติออกไปจากชั้นผิวหนัง ช่วยให้ฝ้าจางลงได้เร็วขึ้น ผิวเรียบเนียนกว่าเดิม นอกจากจะช่วยเรื่องฝ้าให้จางลงแล้ว รูขุมขนยังกระชับมากขึ้นด้วย ประทับใจกับผลลัพธ์ที่ได้หลังการทำมากค่ะ

คนไข้รักษาฝ้า-คุณกิมชุ้น-เลเซอร์เซลล์ซ่อมเซลล์-รักษาฝ้า

     ส่วนขั้นตอนนี้ดีมากเลยค่ะ เรียกว่า เซลล์ซ่อมเซลล์ แพทย์อธิบายว่าจะใช้ “โกรทแฟลคเตอร์” เซลล์ที่ดีที่สุดที่อยู่ในร่ายกายของเรามาใช้ในการรักษา เหมือนเป็นการบำรุงและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรงในระยะยาว

“บอกเลยค่ะว่าคุณหมอจริงใจกับเรามาก หลังจากรักษาฝ้าไปสักระยะ คุณหมอเปิดใจที่จะบอกกับเราว่า ตัวนี้ที่ทำอยู่พอแล้วนะ เพราะผลลัพธ์ดีขึ้นมากแล้ว ไม่มีการเลี้ยงไข้ให้เราต้องซื้อคอร์สอื่นๆ เพิ่มเติมเลย หากเป็นบางที่ก็คงขายคอร์สต่อให้เราแน่นอน แต่บีเอสแอลคลินิกไม่เป็นแบบนั้นเลย ประทับใจมากค่ะ ไม่คิดว่าคุณหมอจะพูดกับเราแบบนี้จริงๆ”

รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ เหมือนได้ผิวใหม่ที่แข็งแรง และขาวกระจ่างใสขึ้น

before after หน้าเป็นฝ้า
*ผลการรักษาอาจเปลี่ยนแปลงไปแต่ละบุคคล*
before after หน้าเป็นฝ้า
*ผลการรักษาอาจเปลี่ยนแปลงไปแต่ละบุคคล*
before after หน้าเป็นฝ้า
*ผลการรักษาอาจเปลี่ยนแปลงไปแต่ละบุคคล*

     หลังจบการรักษาฝ้าที่บีเอสแอลคลินิกเหมือนเปลี่ยนผิวเราให้เป็นคนใหม่เลย ฝ้าที่เคยมีขอบเขตชัดเจนมันจางลงไปเยอะใบหน้าดูขาวกระจ่างใสกว่าเดิม สร้างความมั่นใจให้ตัวเองเพิ่มขึ้นเยอะ จากแต่ก่อนต้องแต่หน้าหนาๆ เพื่อปกปิดฝ้า แต่ปัจจุบันบอกเลยว่าแต่งหน้าน้อยลงมาก ประหยัดเวลาในการแต่งหน้า เอาเวลาที่เหลือไปทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างสบายๆ และไม่ต้องหันไปพึ่งครีมรักษาฝ้าตามท้องตลาดอีกแล้ว เพราะเราไม่รู้เลยว่าสินค้าตัวไหนจะอันตรายต่อผิวหน้าเรา หรือมีสารปรอท สารสเตียรอยด์ที่อาจทำให้ผิวแย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย ขอย้ำเลยว่าบีเอสแอลคลินิกสามารถทำให้ฝ้าจางลงได้จริงๆ แพทย์มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการให้คำปรึกษาที่ทำให้เราเข้าใจง่ายในปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวของเราเอง รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการรักษาที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี และไม่มีผลข้างเคียงเจ้าหน้าที่ทุกท่านก็น่ารัก เอาใจใส่กับเรามากคอยถามตลอด เรามีอาการแพ้เกิดขึ้นไหม ผิวหน้าเป็นอย่างไรบ้าง และควรปฏิบัติตัวอย่างไรหลังการรักษา เยี่ยมมากค่ะ

รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ เหมือนได้ผิวใหม่ที่แข็งแรง และขาวกระจ่างใสขึ้น

     หลายคนต้องกังวลเรื่องแสงแดดที่ทำให้เกิดฝ้าแน่นอน วันนี้บีเอสแอลคลินิกขอแชร์วิธีการเลือกกันแดดอย่างไร ให้เหมาะกับตัวเอง โดยได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชายด้านปัญหาผิวโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นหากเลือกกันแดดอย่างถูกวิธีแล้ว ก็ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นฝ้าในอนาคตอีกด้วย กับ 3 วิธีเลือกกันแดดตามแบบฉบับบีเอสแอลคลินิก

icon ครีมกันแดดที่เขียนว่า Broad Spectrum

ครีมกันแดด Broad Spectrum

เพราะจะสามารถป้องกันแสงแดดได้ทั้งรังสี UVA และ UVB หรือดูจากตัวอักษรดังนี้ SPF คือสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ PAที่มีเครื่องหมาย + มากกว่า 3 ตัว (PA+++), PPDมากกว่า 8 และ PA จะช่วยป้องกันรังสี UVA ได้

icon เลือก SPF ให้เหมาะสม

เลือก SPF ให้เหมาะสม

เช่น หากอยู่ในออฟฟิศหรืออยู่ในบ้าน แนะนำให้ใช้ SPF 15 ขึ้นไป สามารถป้องกันแสงแดดได้ 93% วันที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง แนะนำให้ใช้ SPF 30 ขึ้นไป สามารถป้องกันแสงแดดได้ 97% แต่โดยปกติแล้วคุณหมอแนะนำให้ใช้ SPF 50 ก็เพียงพอแล้ว เพราะช่วยป้องกันสงแดดได้ถึง 98%

icon เลือกกันแดดที่มีคำว่า Water Resistant

กิจกรรมที่มีเหงื่อเยอะ

หรือหากจะว่ายน้ำ ให้เลือกกันแดดที่มีคำว่า “Water Resistant” เพราะจะช่วยกันน้ำ และป้องกันรังสี UV ได้ 40-80 นาที หากต้องทำกิจกรรมเหล่านี้ควรทาซ้ำหลังทำกิจกรรมดังกล่าวด้วย

icon email